วิถีชีวิตของคนไทย
วิถีชีวิตของคนไทย มนุษย์สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ชีวิตของคนไทยมีความสัมพันธ์กับวัด วัดคือสถานที่ที่คนไทยเคารพนับถือ
ในอดีต วัดไม่ใช่เฉพาะแต่มีความสำคัญทางพระพุทธศาสนา แต่ยังใช้สำหรับสั่งสอนให้ความรู้แก่ประชาชนไทย พระสงฆ์เหล่านั้น ผู้ซึ่งทำหน้าที่สั่งสอนให้ความรู้กับนักเรียน โรงเรียนวัดมีอยู่ทั่วประเทศ ดังนั้น วัดจึงมีความสำคัญกับวิถีชีวิตของคนไทยในอดีต เพราะวัดทำให้คนไทยสามารถพัฒนาความรู้ไปสู่ความก้าวหน้าเพื่อชีวิตของเขาในการอยู่ในสังคม
ในระหว่างการปกครองของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ชาวต่างชาติส่วนมากเข้ามาทำธุรกิจการค้าในประเทศไทย ดังนั้น ระบบการศึกษาก็เข้ามาอย่างเป็นทางการ โรงเรียนรัฐบาลก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้น
ศาสนาพุทธมีส่วนเกี่ยวพันในชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่ ตั้งแต่เกิดจนถึงการตายของชีวิต และนี่คือวัดซึ่งเป็นสถานที่ใช้ทำพิธีกรรมมากมายทางพระพุทธศาสนา:
ประการแรก : ทุกๆเช้า ตั้งแต่ 6.00-7.00น. จะมีพระสงฆ์เดินมาบิณฑบาต อาหารที่บิณฑบาตในตอนเช้าจะนำไปฉันในตอนเช้าและเพล
ประการที่สอง : เมื่อมีเด็กเกิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวในชนบทจะไปหาพระที่วัดในหมู่บ้านนั้นเพื่อที่เขาจะขอคำแนะนำในการตั้งชื่อของเด็กที่เกิดใหม่
เมื่อทุกๆครั้งที่ถึงวันเกิดของเด็กๆ ทั้งพ่อและแม่ของเขาและเธอจะไปวัด เพื่อให้ลูกๆทำบุญ ทำความดีทำทาน ตักบาตรหรือบริจาคเงินหรือบริจาคสิ่งของในวันเกิด เมื่อชีวิตของเขาและเธอมาถึงจุดจบ ร่างกายของเขาและเธอควรจะถูกเก็บไว้ชั่วคราวที่วัด ระหว่าง 1-7 วัน หรือน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับการตาย ขึ้นอยู่กับศาสนาที่นับถือ เมื่อศพมาถึง ศพจะตั้งอยู่ที่วัด หลังจากที่ฌาปนกิจแล้วยังคงเหลือกระดูกไปเก็บไว้ในโกศและไว้ในเจดีย์เล็กๆที่วัด
วัดมีส่วนช่วยให้สังคมมีความเป็นอยู่ดีขึ้น พระสงฆ์พบชนิดของสมุนไพรมากมายและพบวิธีการบำบัดรักษาโรค ซึ่งมากกว่า 70% มีผลมาจากการติดยาเสพติด วัดเป็นสถานที่ที่สำคัญของการผลิตยาสมุนไพร และเป็นที่บำบัดของผู้ติดยาเสพติดเหล่านี้
แต่พระสงฆ์ไม่ได้เฉพาะดูแลเกี่ยวกับร่างกายอาการไม่สบายอย่างเดียว ยังดีเด่นด้านบริการ สำหรับผู้ที่ไม่มีความสุข มีความทรมาน มีความกระวนกระวาย มีอาการเจ็บป่วยอีกด้วย เมื่อชาวบ้านรู้สึกว่าไม่มีความสุข พวกเขาอาจจะไปวัดไปหาความสงบทางใจ
นอกจากนั้น วัดในพื้นที่ชนบท ยังมีการเรียนเกี่ยวกับการผลิตยาสมุนไพร ทักษะเกี่ยวกับงานช่างไม้ เทคนิคในการก่อสร้าง การวาดและงานฝีมืออื่นๆ
2.1 ความเชื่อของไทย
วัดมีบทบาทอย่างมากในเรื่องความเชื่อของคนไทย วัดมีประโยชน์มากมายในทุกด้านของชีวิตประจำวันของความเชื่อของคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่บ้าน วัดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ น่าเคารพบุชา ประชาชนไปวัดเพื่อทำกิจกรรมต่างๆมากมาย เช่น พิธีการอุปสมบท งานกฐิน ฟังเทศน์และไปเพื่อทำพิธีกรรม
วัดเป็นศูนย์กลางในการพักผ่อนหย่อนใจ ทุกปีที่วัดจะมีงานหลากเทศกาล เช่น สงกรานต์ ลอยกระทง และงานปีใหม่ โดยปกติแล้วงานเหล่านี้จะเกิดขึ้นภายในวัด
วัดมีความสัมพันธ์อย่างมากในชีวิตประจำวันของคนไทย โดยเฉพาะในเรื่องความเชื่อ คนไทยมีความเชื่อตลอด วัดเป็นสถานที่สำหรับทุกคน วัดในหมู่บ้านธรรมดาจะมีการพบปะกันที่ศาลา และสนามเด็กเล่นกว้างๆ พวกที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนจำเป็นที่จะต้องใช้ศาลาเพื่อประชุมในการทำหน้าที่ของอำเภอและของหัวหน้าหมู่บ้าน หรือบางทีอาจใช้บริเวณสนามเด็กเล่น
วัดยังเป็นสถานที่เคารพบูชากราบไหว้และทำความดีอีกด้วย ศาสนาพุทธเชื่อว่าถ้าไปวัดไปทำบุญตักบาตรกับพระเป็นการทำความดี พวกเราสามารถส่งความดีที่ทำไว้เหล่านั้นไปให้พวกเขาทั้งหลายในสวรรค์หรือนรก
2.2 การศึกษาในประเทศไทย
ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในชื่ออื่นอีกเช่น ดินแดนที่มีอิสระ, เวนิสแห่งโลกตะวันออก และดินแดนของผู้คนที่ใส่เสื้อสีเหลือง ลักษณะพิเศษที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ พระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ ประชากรจำนวนกว่า 95 % ในประเทศไทยเป็นชาวพุทธ และสถิติล่าสุดได้แสดงว่าประเทศไทยมีวัดมากกว่า 30,000วัด ดังนั้นศาสนาพุทธจึงเป็นที่กว้างขวางและมีอิทธิพลต่อสังคมไทยส่วนใหญ่ในการประกอบพิธีการเกือบจะทั้งหมดได้รับบทบาทจากศาสนาพุทธ
แม้ว่าในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ รัฐบาลแห่งชาตินั้นได้มีบทบาทหลายหน้าที่เพื่อความยั่งยืนเป็นสัญลักษณ์สำหรับประชาชน และในการดำเนินชีวิตภายในสังคมของประเทศยังคงวนเวียนเกี่ยวข้องอยู่กับวัด วัดเป็นสถานที่สำคัญสำหรับทุกครอบครัว บทบาทหน้าที่ของวัดได้ขยายออกไปและเกี่ยวข้องเป็นทั้งที่พักผ่อนหย่อนใจ อีกทั้งยังเป็นโรงพยาบาล ร้านขายยา โรงเรียน เป็นศูนย์กลางของสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เป็นโกดังสินค้า มีเครื่องมือให้เช่าและบริการ เป็นที่จ้างงานของบริษัท เป็นสำนักข่าว เป็นหน่วยสังคมสงเคราะห์ และศูนย์ข้อมูลข่าวสารต่างๆ
เราสังเกตได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญอย่างมากสำหรับสังคมไทยไม่ว่าจะด้วยทางใดก็ตาม ตั้งแต่ยุคสุโขทัยก่อตั้งขึ้นมาจนถึงยุครัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาโลก ในอดีตพระถือได้ว่ามีบทบาทมากต่อการศึกษาและจะมีเฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่สามารถเรียนได้ โดยการสอนเน้นการอ่านการเขียนภาษาไทยและการสอนความถนัดของวงการต่างๆๆเช่น การแกะสลัก แพทยศาสตร์ และการนวดฯลฯ ยกตัวย่างเช่นในพื้นที่วัดพระเชตุพนฯ หรือวัดโพธิ์นั้นได้มีภาพ ท่าทาง ตำราการนวดแบบไทยสำหรับผู้ที่สนใจจะศึกษา ยิ่งไปกว่านั้นถ้า
คุณมีโอกาสไปวัดพระเชตุพนฯ คุณจะได้เห็นหินแกะสลักซึ่งจารึกตำรายารักษาโรคและการนวดเอาไว้ในพลับพลาหินขนาดเล็ก
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงนำรูปแบบการศึกษาเข้ามาในประเทศไทย ระบบการศึกษาได้ถูกก่อตั้งภายนอกวัดเป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่วัดซึ่งเป็นโรงเรียนด้วยนั้นได้รับการช่วยเหลือทางด้านข้อมูลการศึกษา พระได้มีบทบาทน้อยลง โดมีนักวิชาชีพครูที่ชำนาญเข้ามาแทนที่พระได้มีการสอนเพียงเล็กน้อยในหน้าที่วิชาพลเมือง ปัจจุบันนี้บทบาทของพระซึ่งเป็นครูตามแบบการศึกษานั้นถือได้วาหมดสิ้นลงไปแล้ว แต่หลักฐานและสิ่งที่เหลืออยู่คือการปกครองของศาล
สมัยนี้การศึกษาก็ยังคงได้พระมามีส่วนร่วมภายในโรงเรียน การบริจาคเงินและการชำระค่าธรรมเนียมศึกษา การสอนให้สอดคล้องโดยใช้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง แม้ว่าปัจจุบันวัดจะมีความสำคัญน้อยลงกว่าแต่ก่อน เพราะการศึกษาทั้งหมดถูกควบคุม แต่วัดก็ยังคงมีอิทธิพลต่อการศึกษาไทยและคนไทย โดยเฉาะอย่างยิ่งทางด้านศีลธรรม ตั้งแต่เกิดจนตายต่างได้รับมาจากศาสนาพุทธ ทั้งหมดได้เกี่ยวข้องกันระหว่างศาสนาพุทธและวิถีชีวิต การทำบุญโดยการให้ การทำบุญเป็นการแสดงออกผ่านทางวัดคนต่างจังหวัดมีการแจกจ่าย บริจาค การทำพิธีทอดกฐิน
มากไปกว่านั้น การบวชถือว่าเป็นสิ่งที่มีเกียรติมากสำหรับผู้ชายไทย ในทางพระพุทธศาสนาเชื่อว่าผู้ชายเมื่ออายุครบบริบูรณ์แล้ว ถ้าบวชแล้วจะถือว่าเป็นการทดแทนพระคุณของพ่อแม่อย่างหนึ่ง ความเชื่อที่สำคัญของศาสนาฮินดูและอื่นๆหรือความเชื่อในเรื่องผีสาง ความเชื่อทางโชคลาง ก็เป็นไปอย่างกว้างขวางด้วย บางคนก็ไปวัดเพื่อที่จะไปเสี่ยงเซียมซี ศาลพระภูมิก็เป็นสิ่งที่มีลักษณะที่โดดเด่น
อย่างไรก็ตามปัจจุบันความเชื่อเกี่ยวกับวัดได้เปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับการเติบโตของเทคโนโลยีของชาติตะวันตกซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เศรษฐกิจที่เจริญเติบโตขึ้นและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปทำให้ความเชื่อได้ถูกเปลี่ยนตามไปด้วยเช่นกัน สาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้อีกสาเหตุนึงก็คือพฤติกรรมของพระนอกรีด ที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง ขัดต่อศีลธรรม ซึ่งเราจะเห็นได้จากโทรทัศน์ หรือทางหนังสือพิมพ์
อย่างไรก็ตามวัดก็ยังคงเป็นสถานที่ศักสิทธิ์ ดังนั้นพวกเราควรจะสร้างความตระหนักและมีความเลื่อมใสแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัด ซึ่งมีน้อยลงไปทุกที
2.3 วัฒนธรรมไทยและขนบธรรมเนียมประเพณี
2.3.1 ไหว้
“ไหว้” ไม่เป็นการทักทายแต่เป็นการแสดงความเคารพ ซึ่งสำคัญมากในสังคม
2.3.2 รอยยิ้ม
ผู้ที่มาเยือน สิ่งหนึ่งที่แน่ใจได้ว่านี่คือประเทศไทย คือ เมืองของรอยยิ้ม หรือ สยามเมืองยิ้ม เมื่อพบกันในเวลาที่ทักทายกันอย่างรวดเร็ว เบื้องหลังรอยยิ้ม ไทยจะไม่”ยิ้ม”โดยจำเป็นซึ่งเกี่ยวกับบางสิ่งนอกจาก รอยยิ้มของเขาทั้งหลาย “การยิ้ม”ไม่ใช่ไร้ความหมาย ในตะวันตกรอยยิ้มผู้คนอย่างสำคัญให้นันทนาการการแสดงและในสถานการณ์จำนวนมากมายรอยยิ้มอยากจะเป็นออกมาจากสถานที่ หรือหยาบคาย แม้แต่ยิ้มแย้มหรือการหัวเราะพยายาม
1. ความอภิรมย์
การยิ้มบ่อยๆ หัวเราะ สำหรับไทยสามารถบอกลักษณะของคนได้เพราะ เป็นการแสดงความอภิรมย์ อย่างไรก็ตามในตามความเป็นจริงการยิ้มเป็นการแสดงออก ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่เปรียบเสมือน “กล้วย”
2. ขอโทษ
ในเบื้องต้น ยิ้ม อาจมีความอภิรมย์เปรียบเสมือน “ผลกล้วย” แต่มันมีความหมายคือขอโทษ “การกระทำผิดไม่ได้ตั้งใจ เมื่อไหร่ที่”ยิ้ม” ก็แสดงความหมายว่า “ให้อภัย” การยิ้ม อาจมีเหตุผลหลายเหตุผล
3. ที่จะขอบคุณ
รอยยิ้มเป็น การขอบคุณสำหรับการบริการเล็กๆน้อยๆ หรือบ่อยๆ และต้องขอโทษที่มีความประณีตซับซ้อนคุณยิ้ม เขายิ้มและทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา มีแขกมาเยี่ยมเยียนต้องอธิบายเรื่องมารยาทการยิ้มให้เขาเข้าใจอย่างถูกต้องอย่างน้อยก็เป็นการรักษามารยาทการยิ้มไว้ มารยาทการยิ้มอาจจะต้องทำความเข้าใจ การยิ้มเป็นการแสดงถึงการขอโทษด้วย ในการยอมรับประเพณีวัฒนธรรมต้องมีการอธิบายถึงความประสงค์และปัญหา หากแขกที่มาเยี่ยมเยียนคิดว่าการใช้ชีวิตในเมืองไทยจะเกิดความลำบากขึ้น พวกเขาก็สามารถใช้เงินอย่างประหยัดเพื่อไม่ให้เกิดความลำบาก
นักเรียนไทยในโรงเหล้าที่ลอนดอนยืนยันที่จะให้คนในบาร์ควบคุมปริมาณแอลกอฮอล์ของเบียร์ในแต่ละเหยือกให้มีค่าเท่ากับ ½ ควอร์ต เขาสามารถเลือกที่จะไม่สนใจและดื่มมัน ซึ่งมีผลต่อการเป็นอยู่ของพวกเขาแต่ละภาคเรียนเป็นอย่างมาก
3. การขอบคุณ
การยิ้มบางคนถือว่าเป็นขอบคุณสำหรับการบริการต่างๆ เช่นเดียวกับพวกเราที่ใช้คำว่า
“ ขอบคุณ ’’ในการสนทนาเรื่องที่ไม่สำคัญน้อยกว่าทางตะวันตก ในประเทศไทยการแสดงความขอบคุณอาจจะเป็นการยิ้มหรือการก้มศีรษะลง หรือการยิ้มอาจจะหมายถึง “ ความพอใจ”
4.การเลี่ยงปัญหา
การยิ้มมีประโยชน์ 2 ประการคือ ทำให้เราตัดสินปัญหาต่างๆด้วยความใจเย็น และกระตุ้นให้คนในสังคมมีกริยามารยามที่ดีงาม คนไทยบางคนคิดว่าการยิ้มสามารถเลี่ยงปัญหาต่างๆได้หรือช่วยลดการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียใจภายหลัง ฝรั่งเมื่อโกรธเคืองจะมีอารมณ์ร้าย แต่คนไทยจะให้ความเคารพนับถือ บางทีเขาอาจจะเข้าใจว่าการยิ้มสามารถทำให้ลดอาการโกรธเคืองได้ดี การดำรงชีวิตและการเป็นที่ยอมรับของผู้อื่นเขาต้องใช้การยิ้มในการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆให้สำเร็จ และทุกคนก็จะยิ้มให้กับเขา การยิ้มช่วยให้เลี่ยงปัญหาต่างๆได้โดยไม่ต้องใช้คำพูดและช่วยลดข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ทำให้สถานการณ์ต่างๆสงบลง เมื่อสถานการณ์สงบลงพวกเขาก็สามารถยิ้มได้
5.การแสดงความเขินอาย
การยิ้มอย่างเขินอายเลี่ยงต่อการเกิดข้อขัดแย้งต่างๆ แต่การยิ้มอย่างเต็มใจสามารถแก้ปัญหาต่างๆได้ โดยการช่วยเหลือจากใครบางคนที่อยู่หน้ารถ ได้มีกระสุนปืนยิงเข้าไปถูกเพดานในร้านอาหารโดยบังเอิญ อาจเป็นไปได้ที่จะเกิดการต่อสู้ขึ้น การยิ้มแสดงออกถึงความเขินอายและมีอำนาจในการขจัดภัย การยิ้มเพื่อแสดงการขอโทษไม่เหมาะสม ควรใช้คำขอโทษและพยายามแก้ไขสถานการณ์เมื่อจำเป็น การชดเชยความเสียหายให้แก่เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย การยิ้มอย่างนอบน้อมทำให้ช่วยลดปัญหาต่างๆภายในประเทศได้ โดยพยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้ให้มากที่สุดและสถานการณ์ทุกอย่างก็จะจบสิ้นไป
การยิ้มอย่างสวยงาม ในเมืองไทยการยิ้มมีความยุ่งยากกว่าการไหว้ การยิ้มบางคนชอบทำท่าทางขมวดคิ้วและอ้าปาก ซึ่งการกระทำเช่นนี้มีผลกระทบต่อตัวเขาอย่างแน่นอน การยิ้มเป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวล เพราะมันดูน่ารัก อย่างไรก็ตามเขาได้จำการยิ้มจากเด็กผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งที่ขายดอกไม้ที่ตรงหัวมุม เขารักและหลงใหลในตัวเด็กคนนั้นมาก ดังนั้นการยิ้มช่วยทำให้เราดูสวยขึ้นและดูอ่อนกว่าวัยอีกด้วย
2.4 ระบบสังคมไทย
ในสังคมไทยจะอาศัยกันเป็นหมู่บ้าน สมัยก่อนการอยู่รวมกันเป็นหมู่บ้านทำให้ชาวบ้านได้เรียนรู้นิสัยใจคอซึ่งกันและกันและได้เรียนรู้ถึงประเพณีต่างๆ ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมและมีความเลื่อมใสในศาสนา ในแต่ละหมู่บ้านจะมีวัดและสถานที่บูชาทางพระพุทธศาสนา ชาวบ้านจะมีความสนใจในเรื่องของวิญญาณและต้องการศึกษาจากภาพศิลปะและการเรียนรู้จากวัด วัดมีความสัมพันธ์กับเราตั้งแต่เกิดจนตาย เป็นศูนย์รวมในการพบปะในโอกาสต่างๆเป็นครั้งคราว ในเวลาที่ประสบเคราะห์ร้ายหรือวันปีใหม่ก็จะนำสิ่งของมาบูชาและทำบุญกัน เพราะเชื่อว่าการกระทำเช่นนี้ช่วยลดความกลัวและทำให้จิตใจดีขึ้น ในระบบสังคมไทย เรื่องของนิสัยใจคอและประเพณีได้มีการเปลี่ยนแปลงไปและมีการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมจากแนวคิดใหม่ๆ ซึ่งบางคนเห็นว่าในสมัยก่อนมีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายทั้งสังคมเมืองและชนบท ต่างจากในสมัยนี้สังคมเมืองจะเน้นถึงความเจริญก้าวหน้ามากของสังคม ส่วนในอดีตจะเน้นเรื่องของมารยาทและวัฒนธรรม
2.5 ค่านิยมของสังคม
การสืบประเพณีไทยดูได้จากการดำรงชีวิตของชาวชนบท ถึงแม้ว่าชีวิตของชาวเมืองและชนบทจะแตกต่างกัน ระบบสังคมไทยมีความเกี่ยวข้องกับระบบครอบครัว นิสัยใจคอ การเลื่อมใสในศาสนา ซึ่งศาสนามีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตและมีอิทธิพลต่อค่านิยมและทัศนคติของคนในประเทศ พระพุทธศาสนามีอิทธิผลต่อจิตใจของคนไทย เช่น เมื่อเจอสิ่งไม่ดี มักจะกล่าวว่า
ไม่เป็นไร นอกจากนี้ผลกรรมมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิต
บทสรุป
อิทธิพลของศาสนาพุทธในประเทศไทยมีลักษณะเฉพาะทางด้านประเพณีวัฒนธรรม
( ความเชื่อ การศึกษา) ภาษาที่ถูกต้องตามอักขระ การครัว สงคราม ศิลปะ ความเชื่อและทัศนคติ ประเทศไทยในอดีตได้มีการบันทึกเรื่องราวต่างๆไว้มากมายและชัยชนะของประเทศ ซึ่งกล่าวถึงความเจริญรุ่งเรืองและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ การดำรงชีวิตของมนุษย์จะเอาใจใส่เกี่ยวกับวัดวาอารามเพราะคนไทยสามารถพัฒนาการดำรงชีวิตให้ดีขึ้น ศาสนาพุทธมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของคนไทยเป็นอย่างมากตั้งแต่เกิดจนตาย

Exercise.
Exercise.Exercise 2.1 General comprehension. Answer the Questions below.
1). The way of Thai life means the humankind can use their lives in the society happily. What are the beautiful ways of Thai life in modern society?
- The great way of Thai life in modern society is the sportsman that Thai people always shares it together in the present day.
2.”Do good get good do bad get bad” What is the meaning of this word?
- An ethical tenet that some Buddhist engages actively in social welfare matters.
3.Why Thailand is called “Land of the Yellow Robes”?
- Because Thailand is a Buddhist country. So, you may find a lot of monks on the streets in Thailand with the yellow Robes.
4.What are the roles of monastery in Thai life?
- Thai people were born to die several roles of Buddhism especially those performed by the institution of a wat or Thai Monastery have been-enumerated above.
5.What is the belief of making merit?
-They can send those merits to their relations in the heaven or hell.

Exercise 2.2 Detailed comprehension. Read these statements and tick (/)if it is true and (X)if it is false.
1. Monastery is a place where Thai people pay respect. ( / )
2. During the reign of King Chulalongkorn (Rama V) many foreigners aim to study Buddhism in Thailand. ( X )
3. The monastery schools have gradually been taken over by the Ministry of Education. ( / )
4. When a child is born, certain parents go to monk at the monastery for the naming of the child.( / )
5.Bhuddhist monks find many kinds of herbals and therapeutic methods in curing drug addiction.( X )
6.when Thai people feel unhappy, they cannot go to the monastery.( X )
7. Monastery played significant role for the way of Thai life in several ways.( / )
8. Monastery is also a recreational center par excellence during a village fair. ( X )
9. Bhuddhism doesn’t play a major role in almost all ceremonies.( X )
10. In present day, monastery is less important than is past. ( / )
11.While Thai temples are Bhuddist,the religious beliefs include important undercurrents from Hinduism.( / )
12.Spirit house are found in the ground of many Wats and houses. ( / )
13.Ordination ceremonies traditionally take place for return a kindness done to their parents.( / )
14.Each belief of a Wat for Thais has been changed in the present time.( / )
15.Most of teenagers go to the monastery for a sermon.( X )

Exercise 2.4 General comprehension. Answer the question below.
1. Why is Wai important for Thai people?
-Because, Wai is an action of respect. It is the most significant of the many social actions that reinforce Thai social structure.
2. What are the distinctive features of Wai?
-It is meaningful.
3. Why Thailand is called by the foreigner “Thailand is the Land of Smile”?
-Because, Thais smile much of the time.
4. List any four meaningful smiles of Thais?
-1.) Amusement 2.) To excuse 3.) To thank 4.) To side-step
5. What are the general advantages of smile?
-Smiling makes you beautiful and keeps you young.

Exercise 2.5 Detailed comprehension. Read these statements and tick (/) if it is true and tick (X) if it is false.
1) The Wai is just a hello without saying words. (X)
2) One of the Wai is forehead lowered to base of the thumb and lowering of body. (/)
3) Wai is a very meaningful part of Thai daily life. (/)
4) In making Wai to the Buddha, or to a monk, the procedure is drop to your knees, sit in the respect position. (X)
5) The superior person would be the first to show that his hands contain no weapons. (X)
6) The Thai king does not Wai his subjects even if they are monks. (X)
7) Many junior Thais do not Wai to Farang because of racial and cultural superiority. (/)
8) If you receive a high Wai, reply with a lower Wai. (/)

Exercise 2.6 For each of the following words find a meaning in English-English dictionary (indicate the type of words).
vocab
1. respect (n).
- a feeling of deep admiration for someone elicited by their qualities or achievement.
2. significant (adj)
- important or noticeable.
3. reinforce (v).
- make stronger by adding material.
4. inferior (adj).
- not good ,or not as good as someone or something else.
5. superior (n).
- person of higher rank position , person or thing that is better.
6. restrict (v).
- to limit the movements or actions of someone , or to limit something and reduce its size or prevent it from increasing.
7. procedures (n).
- a set of actions which is the official or accepted way of doing something.
8. sacred (adj).
- considered to be hold and deserving respect , especially because of a connection with a god.
9. maintain (v).
- to continue to have ; to keep in existence , or not allow to become less.
10. whole (adj).
- complete or not divided.
11. aspect (n).
- considered.
12. initiate (n).
- person who has (just) been initiated into a group.
13. appropriate (adj).
- suitable; right and proper.
14. elder (n).
- an older person ,especially one with a respected position in society.
15. proper (adj).
- real , satisfactory , suitable or correct.
16. democratic (adj).
- based on the principles of democracy.
17. generosity (n).
- quality of being generous.
18. embarrassment (n).
- embarrassing or being embarrassed , person or thing that embarrasses.
19. extreme (n).
- feeling condition, etc. as far apart or as different from another as possible.
20. encounter (v).
- meet or find one self faced by unpleasant , dangerous difficult.
21. ridiculous (adj).
- deserving to be laughed at absurd.
22. servant (n).
- person who is employed in anther person’s house, doing jobs such as cooking and cleaning, especially in the past.
23. casual (adj).
- happening by chance.
24. amusement (n).
- thing that makes time pass pleasantly.
the feeling that you have when something is funny or amusing.
25. excuse (n).
- a reason, either or invented, that you give to explain or defend your behaviour.
26. acquaintance (n).
- a person that you know but who is not a close friend.
27. demonstrate (v).
- o show something clearly by giving proof or evidence
28. relieve (v).
- to remove or reduce an unpleasant feeling or pain.
29. incident (n).
- something that happens, especially something unusual or unpleasant.
30. negotiations (n).
- formal discussion between people who are trying to reach an agreement.
31. amend (v).
- to change the words of a text, typically a law or a legal document.
32. compensation (n).
- see at compensate (pay money),(exchange)
33. elaborate (adj).
- containing a lot of careful detail or many detailed parts.
34. infuriate (v).
- to make somebody extremely angry.
35. exactly (adv).
- use to emphasize that something is correct in every way or in every detail.